แบบฝึกหัดรู้ในโลกคู่ขนานเสมือนจริง เร็วกว่าแสง แต่แพ้แรงแห่งความตั้งใจ

วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2567

เรื่อง : แบบฝึกหัดรู้ในโลกคู่ขนานเสมือนจริง เร็วกว่าแสง แต่แพ้แรงแห่งความตั้งใจ

แรงบันดาลใจ  :  จากสิ่งที่มีผลกระทบได้ในอินทรีย์ 6  คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้งหมดนี้เป็นที่เชื่อมต่อกับอายตนะภายนอก

                                          ถ้าวันนี้หรือวันที่ผ่านมาตัวท่านทำงานหรือเล่นคอมฯอยู่ต่อหน้าจอประมาณวันละกี่ชั่วโมง? เข้าอินเตอร์เนตเพื่อค้นหาในสิ่งที่ตัวเองต้องการเรียนรู้ ต้องการเห็น หาของที่ใช่จำเป็นต้องมีไว้ใช้สอยในชีวิตประจำวัน หรือเปิดการค้นหาไปเรื่อยๆสดุดตาเรื่องอะไรหน้าไหนกดเข้าไปดูว่ามันคืออะไร? เค้าทำอะไรกัน? หรืออยู่หน้ามือถือที่ต่อสัญญาณอินเตอร์เนตได้ประดุจคอมฯอย่างหนึ่ง สิ่งที่สัมผัสกับรูปภาพนิ่งหรือเคลื่อนไหว แสง สี เสียง เรื่องราวต่างๆนาๆ ระบบประสาทรับรู้ทั้ง 6 ทำงานเกือบเต็มระบบ ยกเว้น จมูกที่ไม่ได้กลิ่น ลิ้นที่ไม่ได้สัมผัสรสชาติ นอกนั้นรับเข้าไปเต็มๆ รูปที่เห็นแม้จะตาเห็นรูปเห็นมีควันมีไอแต่จมูกไม่สามารถรับกระทบกลิ่นจากรูปเหล่านั้นได้ ถึงตาจะกระตุ้นความอยากลิ้มลองรสก็ไม่อาจทำได้ในขณะสัมผัสภาพและเสียงทันทีทันใดในเวลานั้น เอาง่ายๆทำความเข้าใจง่ายๆเวลาดูหนังดูละคร พบเห็นเรื่องที่ถูกใจอารมณ์ถูกใจชื่นชมยินดี กระทบจิตความรู้สึกเบิกบานสมใจชื่นใจ พบเห็นเรื่องที่ไม่ถูกจริตถูกกับความรู้สึกที่คัดค้านต่อต้านชิงชังรับไม่ได้ก็จะเกิดอารมณ์คลั่งแค้นขัดใจ ใคร่อยากทำลายทำร้านให้สิ้นไปเป็นความรู้สึกอาฆาตมาดร้ายรุนแรงประมาณหนึ่งในเวลานั้นๆ พอพบเจอเรื่องที่น่ายินดีที่คนอื่นเค้าทำสำเร็จ ทำได้ร่ำรวย อาการความอิจฉาริษยามาแล้วอยากมีอยากทำได้เหมือนเค้า หน้าตา ชื่อเสียง เงินทองที่ได้ เกียรติยศ คนเลื่อมใสศรัทธายกย่องว่าเอ็งเก่งก็อยากจะทำได้เหมือนเค้า ความพร้อมความมีในตัวเองก็มีแล้ว เสื้อผ้า หน้าผมก็ทำแล้ว เงินทุนก็พอมีทำไมๆทำสู้เค้าไม่ได้เริ่มริษยาเกิดแล้ว อยากเป็นเหมือนเค้าว่างั้นเถอะ พอเค้าเชิญชวนกระดกตูดชมเชยว่าพี่หรือเอ็งก็มีศักยภาพอยู่แล้วแต่พี่เอ็งไม่พบโอกาส ตอนนี้แหละพี่เอ็งเอาเลยลองดูพี่เอ็งนิดหน่อยเองพี่เอ็งก็จะได้เป็นคนระดับนั้น เพิ่มอีกนิดพี่เอ็งก็จะได้ขึ้นชั้นเป็นระดับนี้ พี่เอ็งนี่ถ้าจะให้เหมาะต้องเป็นระดับนี้เลยนา เฮ้ยจริงรึ?ใจตัวเองก็บอกตัวเองว่าตัวของเรามันน่าจะเป็นชั้นนั้นแบบนั้นๆตามมโนความคิดของตัวโง่เข้าบังใจจะตามตาที่ถูกกระตุ้น เอาควักออกอีกนิดจะเป็นไรจริงมั่ยสูแล้วงัย พี่เอ็งตัดสินใจเฉียบเลยเยี่ยม(โธ่ไอ้คนรวยมีเขา เรื่องโง่ล่ะฉลาดนัก) ตอนที่รูปเสียงในขณะท่องเวปไซต์นั้นถ้าคงความรู้สึกเท่าทันในอาการอารมณ์ได้ในเวลานั้นๆว่ามันคืออารมณ์ความรู้สึกว่าเป็นอะไร? ก็จะเป็นผู้ที่รู้เท่าทันจิต ไม่เป็นก็เริ่มฝึกได้ ไม่รู้ก็ถามซิ ทำใหม่ให้เหมือนปกติเวลามันเกิดอารมณ์ความรู้สึกตอนไหน จะพิจารณารู้ทันได้ตอนไหน เมื่อเวลาผ่านไปนานมากน้อยแค่ไหน อยากรู้ต้องปฏิบัติเอง ทำกลับจากหาข้อมูลแล้วปฏิบัติ ถ้าเป็นอย่างนี้โอกาสติดกับดักเยอะ อย่าเยอะลองทำดูก่อน แหะ แหะ ตอนนี้อิชั้นกระผมก็นั่งหลับตาอยู่แล้วครับค่ะ เออเอ็งก็นั่งของเอ็งต่อไป หลับตาแล้วจะเห็นอะไรล่ะ เค้าให้พิจารณาตั้งแต่เริ่มมีอาการอารมณ์จาการสัมผัสภายนอกก่อน ไม่ใช่นั่งหลับตาพอลืมตากระทบอายตนะในเวลานั้น งงละที่นี่ทำอะไรไม่เป็นมรรคเป็นผลเลยนิ ทำอะไรไม่ถูกงงกว่าเคยเป็นล่ะทีนี้ การปฏิบัติไม่ใช่จะทำได้เพราะรวมหมู่รวมพวก หรือไปหาใคร สถานที่ไหน การปฏิบัติทางจิตอยู่ที่ไหนก็สามารถจะพิจารณาปฏิบัติได้ไม่เลือกเวลาสถานที่ จิตภาวนาคำง่ายๆ จะว่าปฏิบัติยากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่ายเกินคาดหวัง ไม่ใช่ใครเค้าว่าดีตีโฆษณาก็ตามกันไป การเข้าสู่คนหมู่มากนั้นวุ่นวายไม่ธรรมดาเลยจะกินจะขี้ จะพูดจะคุยดูวุ่นวายไปหมด ของมันต้องมี ของใครของมัน แนะได้นำด้วยคำพูดให้รู้ อ้าวมีคำถามมาจากผู้อ่านแล้ว”แล้วมันใช่แก่นหรือของแท้มั๊ยเจ้าคะ”ในการปฏิบัติ” คำตอบว่าใช่ จะเชื่อหรือไม่ในความนี้ไม่อ้างว่าเป็นหัวข้อหรือเรียกว่าอะไร? ของใครกำหนด พุทธหรือทรุด เมื่อเริ่มปฏิบัติหรือปฏิบัติแล้ว ยังคงพิจารณาอยู่เนื่องๆจะรู้สึกสงบปลงอะไรๆได้ง่ายและใช้เวลาหลังจากการกระทบอายตนะแล้วกินเวลานานขนาดไหน รู้เร็วแค่ไหนจนจบการพิจารณาในความรู้สึกอารมณ์นั้น ยิ่งปฏิบัติยิ่งเร็ว วาง นิ่ง เพื่อรอหัวข้อใหม่เรื่องใหม่ที่จะบังเกิดขึ้นและให้พิจารณาอีกในเวลาต่อๆไป จวบจนจิตทิ้งตัวหรือปล่อยวางในอาการอย่างหนึ่งอย่างใดนั้นแลจึงจะสิ้นสุดไปอีกภพหนึ่งชาติหนึ่งเท่านั้น ฤาถ้าเก่งจริงปฏิบัติได้ก็คงไม่มีการเกิดดับของจิตนั้นแล.

Share the Post:
Skip to content